เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เดนนิส สโคฟิลด์ คนส่งนมซึ่งปัจจุบันมีอายุ 82 ปีซึ่งทำงานเป็นแมวมองให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ไปพบกับเด็กฝีเท้าฉกาจที่โรงเรียนกรอสเวเนอร์ โร้ด ในบ่ายวันหนึ่งของปี 1981
“ผมเห็นเด็กหลายคนเดินออกมาพร้อมกับถือรองเท้าสตั๊ด” เดนนิสย้อนความหลัง “ผมถามพวกเขาว่าจะไปเล่นกันตรงไหน และผมก็หาที่นั่งดูพวกเขาเล่น นี่คือสิ่งที่ดีจากการทำงานเป็นคนส่งนม ผมจะได้เห็นเกมอันหลากหลายในแบบที่คนอื่นไม่ได้เห็นกัน”
ตอนนั้นเดนนิสในวัยหนุ่มรู้สึกประทับใจเด็กคนหนึ่งที่เล่นเป็นปีกซ้ายเป็นอย่างมาก
“ผมตั้งใจดูเขาเล่นเลย” เขากล่าว “เขาพลิ้วตรงริมเส้นฝั่งซ้าย และผมก็คิดว่าได้เจอนักเตะเด็ดๆ เข้าให้แล้ว ผมลองถามดูว่าผู้ปกครองของเขาอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า และผมก็ได้พบกับลินน์ แม่ของเขา”
ในตอนนั้น เดนนิสคิดถึงเพียงแค่สโมสรฟุตบอลเล็กๆ ที่มีชื่อว่าดีนส์ คลับ ซึ่งก่อตั้งในปี 1964 เท่านั้นเอง
“ผมเข้าไปบอกกับเธอว่าผมสามารถพาเขาไปเล่นกับดีนส์ ยูธ คลับ ได้ และก็ให้ลองไปถามเขาดูว่าสนใจจะมาเล่นกับเราหรือเปล่า”
ไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งตอนนั้นยังใช้นามสกุล วิลสัน (เขาเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของแม่ในภายหลัง หลังจากที่แม่หย่าร้างกับพ่อของเขา) เพิ่งจะย้ายขึ้นเหนือมาจากคาร์ดิฟฟ์ เนื่องจากแดนนี่ พ่อของเขาซึ่งเล่นรักบี้อาชีพเพิ่งย้ายทีมมาเล่นให้กับสวินตัน อาร์แอลเอฟซี
“ดูเหมือนเธอจะปลื้มใจมาก” เขารำลึก “พวกเขาเพิ่งจะย้ายมาจากเวลส์ได้ไม่นาน และเธอก็ต้องการให้เขามีเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งเธอคิดว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา”
เหตุการณ์นั้นผ่านมากว่า 32 ปีแล้ว แต่เดนนิสซึ่งเป็นผู้ค้นพบเพชรเม็ดงามก็ยังคงจำมันได้ดี
“เราซ้อมกันในคืนวันพฤหัสบดี และผมก็ไปรับเขาถึงบ้าน” เขากล่าว “เขามีความตั้งใจจริง และแม้ว่าเขาจะรู้ตัวดีว่ามีพรสวรรค์มากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยยึดติดกับมันเลย”
ในช่วงปิดของฤดูกาล โอกาสแสดงฝีเท้าของเขาก็มาถึง
“เราไปเตะทัวร์นาเม้นท์กันที่ไอล์ ออฟ ไวท์ และลงเล่นกับทีมที่มีทั้ง พอล สโคลส์ และ พี่น้องเนวิลล์ เล่นอยู่ด้วย” เดนนิสซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นประธานสโมสรดีนส์กล่าว “ไรอันทำผลงานได้เหนือกว่าพวกเขา”
“ปีต่อมาเราก็ลงไปเตะที่นั่นอีกครั้ง และบรรดาโค้ชทั้งหลายต่างก็ทิ้งเกมของทีมตัวเองมาดูเขาลงเล่น เขาสุดยอดจริงๆ”
เวลาผ่านไป เดนนิสซึ่งทำงานแบบพาร์ทไทม์ให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เริ่มกระวนกระวายใจ นั่นก็เพราะว่าสโมสรจะไม่สามารถเซ็นสัญญากับตัวนักเตะได้จนกว่าเขาจะมีอายุครบ 14 ปี
“ผมตั้งใจจะให้เขาเล่นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ผมก็ค่อนข้างกังวล เพราะเรารู้ดีว่าเขาเป็นแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เขากล่าว “พ่อของเขาบอกกับเราว่าเขาจะเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ผมบอกกับ เคน บาร์นส หัวหน้าแมวมองว่าให้แน่ใจว่าเราจะจัดการกับเรื่องนี้ได้เมื่อวันนั้นมาถึง”
“เขาดูสบายๆ กับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขามานั่งในออฟฟิศในวันเกิดของไรอัน กลายเป็น อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ โจ บราวน์ หัวหน้าแมวมองของเขามานั่งอยู่ด้วย”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นประวัติศาสตร์มาจนถึงตอนนี้ แม้ทุกวันนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะกลับมายิ่งใหญ่ได้แล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังทำร้ายจิตใจของเดนนิสอยู่
“มันทำให้ผมเซ็งมาก” เขากล่าว “หากเขาอยากเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองมันก็เป็นเรื่องที่ยุติธรรมดี แต่ครั้งนี้มันเหมือนกับว่ามีใครสักคนทำให้เขาเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย”
หลายคนอาจทึ่งกับอาชีพค้าแข้งกันยาวนานของกิ๊กส์ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเดนนิสซึ่งทุกวันนี้อาศัยอยู่ที่เมืองชอร์ลี่ย์
“มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับผมเลยกับการที่เขาเล่นจนถึงอายุ 40 ปี” เขากล่าว
“เวลาเห็นผู้เล่นแขวนสตั๊ดด้วยอายุแค่ 32 หรือ 33 ปีมันทำให้ผมหงุดหงิดด้วยซ้ำ สนามแข่งทุกวันนี้มันสมบูรณ์แบบมาก แถมคุณยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยบอกอยู่ตลอดว่าต้องออกกำลังอย่างไร และทานอาหารอย่างไร”
“วันคริสมาสต์ที่จะถึงนี้ ผมจะมีอายุครบ 83 ปีแล้ว และผมก็ยังออกไปวิ่งเล่นที่สนามกับเด็กๆ อยู่เลย”
ทุกวันนี้ ดีนส์ คลับ ก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เด็กๆ หลายคนต่างก็สวมเสื้อที่มีชื่อของเขาสกรีนอยู่ด้านหลัง ขณะที่มัวร์ไซด์ ไฮ โรงเรียนเก่าของเขา เด็กๆ ที่นั่นก็สวมเสื้อที่ได้จากการสนับสนุนของรุ่นพี่ที่โด่งดังที่สุดของพวกเขา
ซู เคิร์ก ครูสอนพละซึ่งอยู่กับโรงเรียนมา 31 ปี ได้อยู่ที่นั่นด้วยตอนที่ ไรอัน กิ๊กส์ กลับมาเยือนถิ่นเก่าเมื่อเดือนที่แล้ว ในงานเปิดตัวคอมเพล็กซ์แห่งใหม่มูลค่า 35 ล้านปอนด์
“เขายังเป็นคนเดิมอย่างที่เขาเคยเป็นเสมอ” เธอกล่าว “เขาเป็นคนที่มีปรัชญาการทำงานที่ยอดเยี่ยม และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ สิ่งที่คุณเห็นเขาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นแหละคือสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ”
“เขาเป็นคนเงียบๆ แต่ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษ เขาดูมีสง่าราศีมากตอนกลับมาที่นี่”
คาดหมายกันว่ากิ๊กส์นั้นจะอยู่ที่นั่นแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่สุดท้ายเขาก็อยู่ที่นั่นตลอดจนถึงเย็น
“ฉันคิดว่าเขายินดีที่ได้ไปอยู่ที่นั่น เช่นเดียวกับที่เราอยากให้เขาอยู่” ซูกล่าว “เขาอยู่ที่นั่นนานกว่าที่กำหนดไว้ แจกลายเซ็นและพบปะกับเด็กๆ เขายังคงซื้อชุดฟุตบอลให้กับพวกเขาด้วย”
SiR KeaNo
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC